![]() |
|||
![]() |
คลอโรฟิลล์ในสาหร่ายเกลียวทองการวิจัยซ้ำถึงคุณค่าของคลอโรฟิลล์ในทางเภสัชกรรมเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของคลอโรฟิลล์ ดึงดูดความสนใจ อย่างมาก และต่อไปนี้คือ คุณสมบัติของคลอโรฟิลล์ที่มีมากในสาหร่ายเกลียวทอง (สไปรูลิน่า) 1. คลอโรฟิลล์มีผลทางการเร่งประสิทธิภาพการทำงานของเนื้อเยื่อ และอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายให้สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น ในการทดลอง เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท พบว่า คลอโรฟิลล์ช่วยในการส่งผ่านกระแสสิ่งเร้าไปยังกล้ามเนื้อและเส้นประสาทกล้ามเนื้อ เส้นประสาทที่อ่อนล้าไม่ยอมทำงานก็กลับทำงานได้เมื่อมีการให้คลอโรฟิลล์ 2. คลอโรฟิลล์มีผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจ คือ การหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจดีขึ้นเพราะระยะเวลา การคลายตัวนานขึ้น การทำงานโดย ส่วนรวมของหัวใจก็ดีขึ้นและเนื่องจากเส้นโลหิตฝอยมีการขยายตัวดีขึ้น ดังนั้นจึงมีทางเป็นไปได้ที่ความดันเลือดลดลงด้วย ยิ่งไป กว่านั้นถ้าฉีดคลอโรฟิลล์เหลวขนาดที่ 1/2000 (1/2000 TH) เข้าทางหัวใจที่หยุดทำงานแล้ว เนื่องจากยาพิษหรือหัวใจอ่อนล้า หัวใจก็กลับทำงานใหม่ได้ 3. คลอโรฟิลล์ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น ทั้งนี้เพราะมันช่วยกระตุ้นการบีบรูดของลำไส้ส่วนปลาย 4. คลอโรฟิลล์ช่วยให้คลอดลูกง่าย เพราะคลอโรฟิลล์ช่วยให้การบีบรัดตัวของกล้ามเนื้อ มดลูกแรงขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการคลอด 5. คลอโรฟิลล์ช่วยส่งเสริมการงอกใหม่ของเซลล์ 6. คลอโรฟิลล์เป็นสารที่ช่วยเพิ่มปริมาณเลือด เนื่องจากคลอโรฟิลล์มีผลทางการกระตุ้นอวัยวะที่ช่วยสร้างเลือดคล้ายคลึงกับธาตุเหล็ก เรื่องที่คลอโรฟิลล์มีความสัมพันธ์กับการสร้างเลือดนั้นเป็นที่น่าสนใจอย่างมากของนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ นอกเหนือจากความ สนใจในความคล้ายคลึงกันมากของโครงสร้างของคลอโรฟิลล์และฮีโมโกลบิน 7. คลอโรฟิลล์ช่วยป้องกันไม่ให้บาดแผลติดเชื้อ และช่วยให้มีการสร้างเซลล์ใหม่ ได้มีการทดลองใช้คลอโรฟิลล์ในการรักษา การสกัดคลอโรฟิลล์ จึงเข้าว่าสารที่ให้ผลในการฆ่าเชื้อนั้นไม่ใช่คลอโรฟิลล์ แต่เป็นคาโรทีน(มีพบในใบไม้สีเขียวคู่กับคลอโรฟิลล์ และในร่างกายของสัตว์รงควัตถุตัวนี้จะถูกสลายกลายเป็นวิตามินเอ) ต่อ ๆ มาก็ได้มีการค้นพบว่าธาตุแมกนีเซียมในคลอโรฟิลล์ มีบทบาทอย่างสำคัญในการรักษาบาดแผล คลอโรฟิลล์ยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและทำหน้าที่ในการป้องกันการเกิดแบคทีเรีย ดังนั้นจึงป้องกันมิให้แผลติดเชื้อ และช่วยให้มีการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นอีกด้วย ดังนั้นคลอโรฟิลล์จึงเท่ากับทำประโยชน์ได้ถึงสองเท่า 8. คลอโรฟิลล์ขจัดกลิ่นเหม็นของแผล เพราะเมื่ออะแนโรบิคแบคทีเรีย (แบคทีเรียที่เจริญเติบโตในที่ไม่มีออกซิเจน ซึ่งจะตาย เมื่อถูกอากาศ เช่น แบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในดินและเชื้อบาดทะยัก) เข้าไปในบาดแผลมันก็จะมีฤทธิ์มากขึ้นและก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ซึ่งคลอโรฟิลล์จะทำหน้าที่ขจัดกลิ่นนี้ออกไป 9. คลอโรฟิลล์มีคุณสมบัติเป็นสารดูดความชื้นทำให้แผลแห้ง และช่วยลดการคัดหลั่ง และยิ่งกว่านั้นคือ ไม่มีผลข้างเคียงเลย และจากการใช้คลอโรฟิลล์สามารถลดการใช้ยาปฏิชีวนะได้ถึง 50% 10. รักษาแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารและการอักเสบของทางเดินอาหาร คนญี่ปุ่นจำนวนมากต้องทรมานด้วยโรคทางเดินอาหาร จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า คลอโรฟิลล์ใช้ได้ดีกับโรคหลายโรค เช่น โรคแผลเปื่อยในกระเพาะ, โรคมีกรดมากเกินไปใน กระเพาะ, โรคกระเพาะอักเสบเรื้อรัง และสภาพการหย่อนยานของกระเพาะ (สภาพกระเพาะอาหารขาดกำลัง) ในกรณีที่มีกรดมาก เกินไปในกระเพาะ คลอโรฟิลล์จะช่วยในการควบคุมความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร (Gastrix Juice) เช่น ถ้ากินคลอโรฟิลล์เข้า ไปก็จะไปทำลายสภาพความเป็นกรดในกระเพาะอาหารให้เกิดความเป็นกลางยิ่งไปกว่านั้นในกรณีที่เป็นแผลเปื่่อยในกระเพาะอาหาร และมีการตกเลือดแฝงในกระเพาะอาหาร (Gastric Juice occult bolld test) เมื่อกินสาหร่ายเกลียวทอง(สไปรูลิน่า) ติดต่อกัน เป็นประจำ อาการตกเลือดแฝงนี้จะหายไป อาการอื่น ๆ เช่น ปวดท้อง คลื่นเหียนซึ่งมักพบเสมอในผู้ป่วยโรคดังกล่าวจะหายไป อย่างรวดเร็วเมื่อกินคลอโรฟิลล์ |
|||||||
คลอโรฟิลล์ช่วยป้องกันแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารได้อย่างไร สาหร่ายเกลียวทองสมมุติฐานที่ดีที่สุด เห็นจะเป็นเพราะว่าคลอโรฟิลล์ทำปฏิกิริยากับเพปซิน และควบคุมปฏิกิริยาการย่อยของเพปซิน (เอนไซม์มีหน้าที่ย่อยโปรตีน น้ำหลั่งในกระเพาะอาหารเพปซินร่วมกับกรดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดเกลือทำการย่อย สลายโปรตีนให้เป็นโพรทิเอสและเปปโตน) ในการทดลองได้แสดงให้เห็นว่า คลอโรฟิลล์ ช่วยควบคุมการย่อยอาหารยิ่งไปกว่านั้น คลอโรฟิลล์ยังมีผลต่อต้านโรคภูมิแพ้ในกระเพาะอาหาร, โรคแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารอันเกิดจากการเป็นโรคภูมิแพ้มาก่อน เช่นเดียวกับโรคภูมิแพ้ในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ประสิทธิภาพของคลอโรฟิลล์เริ่มเป็นที่รู้จักกันในแวดวงของศัลยกรรมโรคผิวหนัง และนรีเวชวิทยาตลอดจนจักษุวิทยา จมูกและคอ รวมทั้งทันตกรรมด้วย สาหร่ายเกลียวทอง เป็นที่ทราบกันแล้วว่า ยาสำหรับโรคกระเพาะอาหารอักเสบ หรือโรคแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารนั้นต้องมี คลอโรฟิลล์ผสมอยู่ด้วย ทั้งนี้เพราะคลอโรฟิลล์เป็นสารที่ให้ผลทางการรักษาอาการอักเสบของเยื่อบุในกระเพาะอาหารและเยื่อบุ หลอดลม สาหร่ายเกลียวทองผนังกระเพาะอาหารจะทำหน้าที่ผลิตน้ำย่อย ซึ่งเป็นน้ำย่อยที่มีประสิทธิภาพ ยิ่งสามารถย่อยชิ้นเนื้อชิ้นหนึ่ง ได้ภายในเวลาประมาณ 20 นาที และเพื่อป้องกันไม่ให้ผนังกระเพาะอาหารเกิดการอักเสบเนื่องจากน้ำย่อยชนิดนี้ กระเพาะจะมี เยื่อมูกบุภายนอกอีกชั้นหนึ่ง อย่างไรก็ตามเมื่อคนเกิดความกังวล หรือเมื่อมีความเครียดระบบป้องกันของกระเพาะอาหารก็จะ ทำงานไม่เต็มที่ น้ำย่อยที่ผลิตจากผนังกระเพาะ ก็จะทำการย่อยกระเพาะเสียเองทำให้เกิดรูแผลในผนังกระเพาะ นี่คือโรค กระเพาะอาหารอักเสบ แต่ถ้าเป็นมากเรียกโรคแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร และในปัจจุบันดู เหมือนว่า 8% ของคนไข้โรคแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารจะมีสาเหตุมาจากความเครียด มากกว่าการกินอาหารมากเกินไป สาหร่ายเกลียวทองในปัจจุบัน พบโรคแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารแม้ในเด็ก ชั้นประถม สาเหตุโดยตรงก็ดูเหมือนจะเป็นความเครียด อันเนื่องมาจากต้อง เข้าสอบในสนามสอบแข่งขันตั้งแต่ยังเล็กตามระบบการศึกษาของญี่ปุ่น |
||||||||
ประโยชน์ของ คลอโรฟิลล์ 1. ทำให้บาดแผลหายเร็ว |
||||||||
|
||||||||
![]() |
||||||||
|
||||||||